คำว่า “กัว” หมายถึง การกวาด หรือ ขูด คำว่า “ซา” หมายถึง อาการของพิษโรค ซึ่งปรากฏบนผิวเป็นรอยผื่น หรือจ้ำ แดงๆ คล้ายเม็ดทราย ดังนั้น “กัวซา” ก็คือ การขูดผิวหนังเพื่อเสาะหาพิษ หรือโรคที่แอบแฝงอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย และทำการกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือด ส่งเสริมการไหลเวียนของพลังลมปราณในร่างกายขับพิษ หรือความร้อนออกจากร่างกาย นับเป็นการดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้ได้ง่าย สะดวก เห็นผลเร็ว ประหยัด และทำได้ด้วยตนเอง ที่สำคัญคือ “ไม่ต้องกินยา” เป็นวิธีบำบัดแบบพื้นบ้านที่แพร่หลายกันมาแต่โบราณ ไม่ทราบผู้ค้นคิดหรือยุคสมัยที่แน่นอน หลักฐานทางการแพทย์แผนจีนมีบันทึกเกี่ยวกับการบำบัดด้วย “กัวซา” ที่เก่าแก่ที่สุดคือ “ตำรับยอดนิยมของหมอกลางบ้าน” เขียนโดย เวย อี้ หลิน แพทย์จีนสมัยราชวงศ์หยวน ราวปี ค.ศ. 1337 จัดให้ “กัวซา” เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการบำบัดทางการแพทย์จีน
แสดงตำแหน่งของการขูดกัวซา
ในอดีตชาวจีน ใช้เหรียญกษาปณ์ หรืออุปกรณ์ในครัวเรือน เช่น ช้อน ชาม หรือ ถ้วย มาขูดที่ผิวหนังบ้างก็ใช้ป่าน ปอ ชุบน้ำ มาตีและฟาด บริเวณ หลัง ไหล่ หรือ แขน ขา จนกว่าจะปรากฏรอยผื่นแดง เพื่อบำบัดอาการไข้หวัด หรืออาการเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศ
ปัจจุบันยังแพร่หลายในหมู่ชนเชื้อสายจีนแต่มีการปรับปรุงอุปกรณ์ โดยเลือกจากวัสดุธรรมชาติ ให้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานยิ่งขึ้น เช่น จับถนัดมือ ให้ผลเร็ว ไม่เจ็บ ปลอดภัย ไม่ติดเชื้อ
แผ่นกัวซา
ตัวประสาน
สีของจุดแดงที่ปรากฏ บ่งบอกถึงระดับของพิษที่สะสมอยู่ และยังบอกถึงส่วนของร่างกายที่มีอาการบกพร่องอีกด้วย สีชมพู หรือแดงเรื่อๆ แสดงว่า ดี แดงเป็นปื้น แสดงว่า พิษเริ่มสะสม แดงเป็นจ้ำเหมือนไข้เลือดออก แสดงว่า พิษถูกสะสมมานาน แดงช้ำ แสดงว่า พิษสะสมมาก ช้ำเป็นสีม่วงดำ แสดงว่า พิษมากถึงขั้นมะเร็ง
กัวซา กับใบหน้า เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิวหนังบริเวณใบหน้าโดยตรง กระตุ้นการหมุนเวียนสูบฉีดของโลหิต ทำให้ได้รับออกซิเจน และสารอาหารไปหล่อเลี้ยงเต็มที่ พร้อมกันนั้น ก็เป็นการเร่งให้ร่างกายขับสารพิษออกไปเร็วขึ้น เป็นผลให้ผิวพรรณเต่งตึง เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น เป็นประกาย มีเลือดฝาด ลดรอยเหี่ยวย่น และจุดด่างดำ
ขอขอบคุณรูปภาพ “เส้นทางลมปราณ” และ “ทิศทางของการกัวซา” จากศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ