กวาซา
กวาซา กวาซา คนเรามักจะพูดว่ากันไว้ดีกว่าแก้ สำหรับโรคภัยไข้เจ็บ แทนที่จะตรงเจอแล้วค่อยรักษา สู้เราป้องกันไว้ก่อนไม่ให้เกิดโรคดีกว่า ก็เพราะคนเรามีความเชื่อเช่นนี้ ทำให้ปัจจุบันเกิดศาสตร์ที่เน้นในการป้องกันโรคมากมาย และเกิดความเชื่อต่างๆ เพื่อป้องกันโรค บางคนเชื่อว่าทานยาสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ลืมนึกถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากยานั้น ที่จริงวิธีป้องกันโรคที่เห็นผลเร็วที่มักสะดวกที่สุดและประหยัดที่สุด เป็นวิธีเก่าแก่และกำลังได้รับความนิยมอีกครั้งโดยปราศจากการใช้ยาเราเรียกกันว่า “กวาซา” (ขูดพิษ) กวาซามีต้นกำเนิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เคยเป็นที่นิยมแพร่หลายในประวัติศาสตร์จีน ถือว่าเป็นวิธีรักษาแบบธรรมชาติของจีน กวาซาอยู่ในสังคมจีนมากกว่าพันปีโดยไม่สูญหาย ส่วนของไทยเรา ดิฉันได้พบเป็นการรักษาแบบล้านนาเรียว่า วิธีการแหกพิษ คือการขูดเอาพิษหรือสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายให้ออกมานอกผิวหนัง มีมาแล้ว 200-300 ปี ก็น่าจะสืบทอดมาจากทางจีนเช่นกัน ดิฉันได้พบหนังสือเล่มหนึ่งแต่งขึ้นโดยแพทย์หญิง จาง สิ่วฉิน และ รองศาสตร์จารย์นายแพทย์ ห่าววันชาน ทั้งคู่ได้รับการกล่าวขานอย่างมากจากผุ้ป่วยและบรรดาผู้สนใจวิธีรักษาแบบกวาซา หนังสือนี้ได้อธิบายวิธีรักษาแบบกวาซาอย่างเป็นระบบ โดยรวมเอาหลักการรักษาแพทย์แผนจีนที่เน้นเส้นลมปราณและทฤษฎีพื้นฐานจากการแพทย์ตะวันตก จนพัฒนาวิธีการรักษากวาซาไว้ได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ท่านกล่าวไว้ว่า วิธีการรักษาแบบกวาซา เป็นการฝังเข็มที่ไม่จำเป็นที่ต้องทิ่มทะลุผิวหนัง เป็นการถ่ายเลือดโดยไม่มีเลือดไหล ดิฉันเองก็ได้ศึกษาเรียนแพทย์แผนไทยจบเวชกรรมไทยมา จึงได้นำตำรานวดไทยและยาไทยมาประยุกต์ระหว่างของไทยและจีน จนเป็นที่ยอมรับของคนไข้ที่มารักษาที่คลินิกว่าวิธีการขูดพิษของดิฉัน เป็นการรักษาโรคได้ ที่ได้ผลดีและไม่มีผลข้างเคียง ซ้ำยังทำให้มีสุขภาขดีขึ้น กลับเป็นหนุ่มสาว...